วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อ.อมรา เเห่ง กสม. มีลูกศิษย์ คิดล้างครูครับท่าน

อ คนนี้เลว สุดๆ
สังเกตตั้งแต่สมัย สอนจุฬาแล้ว
ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความเป็นกลาง

สงสัยเป็น ยุวชน ประชาธิปัตย์ สมัยก่อนโน้น
ดีไม่ดี คุณพ่อ เป็นพรรคพวกกับนาย ควง นายเสนีย์  อะไรทำนองนั้น

ญาติผมมีอย่างนี้คนหนึ่ง




วิทยา นันทนพจน์ 
อ.อมรา เคยสอนที่จุฬาและมีการถากถางลูกสาวท่านทักษิณตอนที่เรียนที่จุฬาประมาณปี 2548-2549 ถ้าจำปีผิดขออภัยด้วย. ผมเคยบอกว่าอ.อมรามีความเป็นครูแบบไหนครับ? แบ่งแยกออกระหว่างหน้าที่กับความรู้สึกส่วนตัวหรือไม่? ถ้ากลับกันลูกของท่านเจอแบบลูกท่านทักษิณท่านจะรู้สึกอย่างไร? เมื่อท่านมาเป็นกรรมการสิทธิก็ยิ่งทำตัวชัดเจนยิ่งขึ้นที่จะเลือกฝ่ายอย่างชัดเจน. การเลือกฝ่ายไม่ผิดถ้าท่านไม่ใช่กรรมการสิทธิ คือถ้าท่านออกมาเป็นประชาชนที่ไม่มีหัวโขนแล้วท่านสามารถเป็นตัวของตัวเองเต็มที่เลย. การที่เป็นข้าราชการท่านก็กินเงินเดือนจากภาษีของคนที่ท่านเกลียดเช่นกัน. คนเสื้อแดงมีอยู่ทั่วประเทศคนรักท่านทักษิณมีเกินครึ่งประเทศ.

อาจารย์อมราครับท่านคิดให้ดีครับวางหัวโขนลงให้หมดแล้วตั้งสติคิดว่าที่ท่านทำกับลูกศิษย์ลูกท่านทักษิณถึงแม้คนส่วนใหญ่จะลืมไปแล้วแต่บาปของอาจารย์มันติดในใจของอาจารย์. เสียชื่อสถาบันที่ท่านสอนด้วย. ถ้าผมเป็นอาจารย์ผมจะลาออกและไปอยู่ในที่ๆเขาไม่รู้จักเราและทำบุญล้างบาปตลอดชีวิตเลย. คนอย่างอาจารย์คงไม่กล้าหรอกครับที่จะทิ้งหัวโขนที่เขาให้. คนแบบอาจารย์มีอีกเยอะครับ. ผมให้อภัยแต่ผมจะไม่ยอมรับตลอดชีวิต. เพราะคนพวกท่านไม่น่าเคารพน่าประจานที่สุด

ไม่แน่จัยว่าคนที่ทำงานให้สิทธิมนุษยชนได้ศึกษาหรือเรียนรู้ด้านสิทธิมนุษยชนจริงรึหรือป่าว ถึงได้ไม่รู้เรื่องสิทธิมนุษยชนเลย ไม่มีการปกป้องประชาชนเลย มองดูกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศอื่นๆ ที่เขาทำงานสิ ว่าเขาช่วยประชาชน

ทำงานอย่างนี้เปลืองภาษี ปชช. ออกไปเลยปะ

.
อ่านต่อที่นี่ค่ะ

ข้าพเจ้าขอปฏิเสธการเสนอชื่อตนในการรับรางวัลฯ






















เรียน ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการ
เรื่อง ขอปฏิเสธการเสนอชื่อตนในการรับรางวัลฯ และข้อเสนอบางประการ

อันเนื่องจากมีนักสิทธิมนุษยชนในองค์กรฯของท่านได้แจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่า อาจารย์ อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคุณวิสา คณะกรรมการสิทธิฯได้มีกะใจเสนอชื่อให้ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลสิทธิมนุษยชน ในประเภทเด็กและเยาวชน จากงานของสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทยซึ่งต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน ในประเด็นเรื่องทรงผม ข้าพเจ้ามีความปีติยินดียิ่ง และเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเยาวชนคนหนึ่ง

หากข้าพเจ้าขอปฏิเสธการเสนอชื่อตนในการรับรางวัลฯ เพราะ ๑)ข้าพเจ้าไม่ถนัดในการส่งประวัติตนเองในการเสนอรางวัลใดๆ ๒)คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนชุดนี้มีสักกี่คนที่ทำงาน และสนใจประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างใจจริง กรณีเมษา-พฤษภา ๕๓ เป็นอย่างไร ดูแทบจะไม่ไยไพด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นเป็นประชาชน ไม่ต้องเอ่ยถึงการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางความคิดของฝ่ายรัฐได้สนใจบ้างหรือไม่ ๓)ข้าพเจ้าในนามสมาพันธ์นักเรียนฯได้เคยส่งจดหมายรายงานเรื่องสิทธิมนุษยชนในโรงเรียนไปยังแก่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ทางคณะกรรมการฯมิได้ตอบกลับ แล้วข้าพเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าทัศนคติขององค์กรนี้เป็นอย่างไร มีน้ำใสใจจริงเพียงไหนกัน